12 ราศีธนู - หลวงพ่อเงิน วัดปากน้ำมาถึงราศีธนูกันแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเป็นปีที่ดีของชาวราศีธนูเลยจะพบกับความมั่นคงมั่งคั่งเรื่องการงานการเงินเหมาะกับการเริ่มทำธุรกิจใหม่ แน่นอนว่าถึงดวงจะปังแล้วเราก็อยากปังขึ้นอีก! เสริมดวงด้วยการไหว้พระประจำราศีนั่นคือ หลวงพ่อเงิน วัดปากน้ำ กราบไหว้บูชาเชื่อว่าจะพบแต่กัลยาณมิตรและบริวารที่ดี การเงินคล่องตัวมีโชคลาภ รวมไปถึงเสริมดวงพบแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิตอีกด้วยค่ะมหัศจรรย์..หลวงพ่อเงิน 700 ปี แห่ง ชุมชน บ้านปากน้ำ บุ่งสระพัง อุบลราชธานี,หลวงพ่อเงินเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนล้านช้าง อายุ 700 ปี เป็น พระชัยหลังช้าง หนึ่งเดียวแห่งอีสานหลวงพ่อเงิน เป็น พระพุทธรูป ที่มีความเกี่ยวข้องกับการสถาปนาเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยแห่งค่ายนักรบในอดีต ได้ขุดพบ ณ จุดไกล้เคียง ค่ายดอนมดแดง ณ วัดป่าพระพิฆเณศวร์ ริมแม่น้ำมูลหลวงพ่อเงิน ได้ขุดพบเมือง ปี พ.ศ. 2515ภายหลัง ลำแสงประหลาด พุ่งขึ้นใส่เครื่องบิน ทหารอเมริกัน ใน ยุคสมัยสงครามเวียตนาม ”หลวงพ่อเงิน พระชัยหลังช้าง แห่งแผ่นดินอีสาน 700 ปี อุบลราชธานีประวัติความเป็นมา ของ หลวงพ่องิน อันสืบเนื่องจาก เมื่อคราว พระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล)ได้ สร้างพระอุโบสถมิตรภาพไทย-อเมริกัน นึ้น ท่านได้นิมิตถึง ตาชีปะขาวมาบอกว่าที่ วัดป่าพิฆเณศวร์ ยังมีสมบัติอยู่มาก แต่ไม่สามารถที่จะนำขึ้นมาได้พร้อมกับระบุตำแหน่งให้ทราบ ของบางอย่างเจ้าของเขาไม่ให้ ของบางอย่าง นำขึ้นมาก็จะเกิดอันตรายแก่ผู้ครอบครองแต่ยังมีของสำคัญอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ควรที่จะอยู่ใต้แผ่นดิน อยากให้ไปเอาขึ้นมาเก็บรักษาไว้เพื่อเป็น สมบัติของพระศาสนา ให้ลูกหลานได้เคารพสักการบูชา ของสิ่งนั้น คือ “พระพุทธรูปเงิน ”พร้อมกับกล่าวต่อไปว่ารุ่งขึ้นจะเกิดพายุในตอนบ่าย ต้นตาล ภายในวัดจะหัก ปลายตาลหักไปทางทิศไหนก็ให้ไป ขุดตรงที่ปลายตาลที่ล้มลงครั้นแล้ว ชายในชุดขาวก็หายไป เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา พระมงคลธรรมวัฒน์เกิดความรู้สึกเป็นสุขเอิบอิ่มใจอย่างประหลาด ครั้นต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ดังนิมิต.ชาวบ้านได้เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า ปกติต้นตาลเป็นต้นไม้ที่มีความแข็งแรง แม้ถูกลมพัดก็ยากที่จะหักโค่นแต่วันนั้นต้นตาล ในวัดร้างเมื่อถูกลมก็หักโค่นลงผิดปกติวิสัย สิ่งที่แปลกและน่าอัศจรรย์ คือ แทนที่ต้นตาลจะล้มไปตามแรงลมแต่ต้นตาลกลับทวนกระแสลม ล้มลงทางทิศเหนือ พระมงคลธรรมวัฒน์ ได้นำชาวบ้านไปที่วัดป่า แล้วจุดธูปเทียนเครื่องสักการบูชาคุณพระรัตนตรัย คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ พร้อมกับอธิษฐานจิตอย่างแน่วแน่และมั่นคงว่า“ หากเป็นจริงดังนิมิต ท่านก็จะรักษาพระพุทธรูปไว้ให้เป็นที่เคารพสักการบูชาของลูกหลานและพุทธศาสนิกชนสืบไปขออย่าได้มีอุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง” ครั้นแล้วก็ขุดตรงที่ปลายต้นตาลหักลงตามนิมิต เมื่อขุดลงไปลึกประมาณชั่วคนยืนก็ได้พบแผ่นศิลา ๔ เหลี่ยมถูกจัดไว้ในลักษณะหีบ มีความสวยงาม อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ทุกประการ ถูกฝังอยู่ใต้ดินลักษณะของการฝังผู้ฝังมีการเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อนำขึ้นมาเปิด ฝาหีบออกก็ปรากฏว่าภายในหีบศิลานั้นมีทรายเนื้อละเอียดสีขาวใสบริสุทธิ์เต็มหีบศิลานั้น เมื่อทรายต้องแสงอาทิตย์ก็ส่องประกายวาว ระยิบระยับเมื่อนำทรายออกมา ก็เห็น พระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อเงินบริสุทธิ์ ประดิษฐาน อยู่ภายใน หีบศิลานั้น ดังนิมิตท่านบอกว่า “เสียดายที่หลวงพ่อไม่ได้เก็บทรายนั้นไว้”. พระพุทธรูป นั้นคง พุทธลักษณะ ที่มีความงดงามแม้จะถูกฝังรักษาไว้ใต้พื้นดินก็ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ผิวเงินยังสวยงามโดยไม่ได้รับการกระทบกระเทือนใดๆพระมงคลธรรมวัฒน์อัญเชิญหลวงพ่อเงินประดิษฐานไว้ แล้วน้อมลงกราบด้วยปีติและศรัทธาที่ตั้งมั่นจากนั้น ท่านได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ วัดปากน้ำ และถวายนามว่า “ หลวงพ่อเงิน”โดยกำชับชาวบ้านมิให้นำเรื่องนี้ไปบอกกล่าวให้ใครฟัง การที่ท่านกำชับไม่ให้ชาวบ้านนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังเนื่องจากเกรงจะเกิดปัญหาและถูกยึดไปเป็นสมบัติของหลวงเหมือนเมื่อครั้งขุด พระพิฆเณศวร์ ได้ส่วน หีบศิลาหินทราย ท่านให้นำไปวางไว้ ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ ภายในบริเวณวัดป่าแห่งนี้นัยว่าเพื่อเป็นการบูชาพระพุทธองค์ ต่อมา ต้นโพธิ์ก็ได้ห่อหุ้มหีบศิลานั้นเอาไว้แล้วกลืนหายไปตามกาลเวลาพระมงคลธรรมวัฒน์ เล่าว่า เมื่อครั้งชาวบ้านขุดพบ พระพิฆเณศวร์ที่บริเวณวัดป่าแห่งนี้สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส ป.ธ. ๕ พุทธศักราช ๒๔๘๒-๒๔๙๙) ทราบข่าว ท่านได้ออกมาตรวจสอบและขอไปปัจจุบัน พระพิฆเณศวร์ถูกนำไปเก็บไว้ที่วัดสุปัฏนาราม เมืองอุบลราชธานีเมื่อมีการขุดพบ พระพุทธรูป ตามที่ปรากฏใน นิมิตของ หลวงพ่อพระมงคลธรรมวัฒน์ ชาวบ้านทุกคนจึงถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องรักษาหลวงพ่อเงินเทพนิมิตไว้เป็นมรดกของลูกหลานในหมู่บ้านเพราะความผูกพันที่มีต่อบ้านเกิด และต้องการให้ลูกหลานได้ศึกษาถึงประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านพระมงคลธรรมวัฒน์ ได้สร้างพิพิธภัณฑ์ประจำหมู่บ้านขึ้นมาหลังหนึ่ง ให้ชื่อว่า “พิพิธภัณฑ์บ้านปากน้ำ วิถีชีวิตชาวบ้านลุ่มน้ำบุ่งสระพัง”เพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บรวบรวมโบราณวัตถุ และประวัติความเป็นมาของชุมชนแห่งนี้จะได้เป็นแหล่งศึกษาของประชาชนต่อไป หลวงพ่อเงิน กับการสถาปนาเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย.หลวงพ่อเงิน พระชัยหลังช้างแห่งแผ่นดินอีสาน เป็นพระพุทธรูปเนื้อเงินปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสนล้านช้าง ฝีมือตระกูลช่างชาวบ้าน อายุประมาณ ๗๐๐ ปี ขึ้นไปจากนิมิตของ หลวงพ่อพระมงคลธรรมวัฒน์ ทำให้ทราบว่า หลวงพ่อเงินเป็นพระพุทธรูปที่มีความเกี่ยวข้องกับการสถาปนาเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำกองทัพ ของเจ้าปางคำแห่งราชวงศ์เชียงรุ้ง แสนหวีฟ้า สิบสองปันนา ที่แตกหนีกองทัพจีนฮ่อมาสร้างนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน หนองบัวลุ่มภู ในปี พ.ศ. ๒๒๒๘ในการนั้น เจ้าปางคำได้อัญเชิญหลวงพ่อเงินขึ้นเป็นพระพุทธรูปประจำทัพมาด้วยต่อมา ราวปีพุทธศักราช ๒๓๑๔ พระเจ้าสิริบุญสารแห่งเวียงจันทน์ ได้ครองราชย์ เกิดหวาดระแวงเจ้าพระวอ เจ้าพระตาว่าจะเป็นกบฏพระเจ้าสิริบุญสารจึงได้ยกทัพมาตี นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ทำให้เจ้าพระตาถึงแก่อสัญกรรม ในสนามรบ เจ้าพระวอ ผู้น้องขึ้นเป็นผู้นำกองทัพแทนและได้ย้ายบ้านเมืองจากนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน มาตั้งบ้านเมืองอยู่ที่บ้านดอนมดแดงอันเป็นบริเวณอำเภอดอนมดแดงตลอดลำน้ำมูลขึ้นมาจนถึงตำบลกุดลาด ไปจนถึงที่ตั้งเมืองอุบลราชธานี ในปัจจุบันภายหลังเจ้าพระวอ ถูกทหารเวียงจันทน์โจมตี จนถึงแก่อสัญกรรมที่ค่ายบ้านดู่บ้านแก เขตนครจำปาศักดิ์ต่อมาท้าวคำผง ผู้บุตรเจ้าพระตา ได้ขึ้นเป็นผู้นำกองทัพ และได้แต่งตั้งให้ทหารไปเฝ้าพระเจ้ากรุงธนบุรีเพื่อขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารสืบไปหลวงพ่อเงิน จึงน่าจะเป็นพระพุทธรูปประจำเมืองที่มี ความสำคัญหรือพระพุทธรูปประจำค่ายบ้านดอนมดแดงของเจ้าพระวอ ถ้าจะเปรียบก็น่าจะอยู่ในระดับพระไชยหลังช้างคือ เป็นพระพุทธรูปประจำทัพ เมื่อจะไปทัพที่ไหน เมื่อเกิดสงครามที่ไหน ก็จะอัญเชิญ พระพุทธรูปประดิษฐานบนหลังช้างไปกับกองทัพเพื่อให้เป็นสิริมงคลและเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ.การขุดพบพระพุทธรูปเงินศิลปะเชียงแสนล้านช้าง บริเวณ วัดป่าพิฆเณศวร์ บุ่งสระพังจึงมีความเป็นไปได้ว่า บริเวณ วัดป่าพิฆเณศวร์น่าจะเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญ ในการตั้งบ้านเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัย ของกองทัพเจ้าพระวอภายหลังอพยพมาจากนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานสู่ลุ่มน้ำมูลปัจจุบัน หลวงพ่อเงิน 700 ปี ได้ประดิษฐาน ที่ วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง อุบลราชธานีและมี ประเพณีแห่หลวงพ่อเงิน 700 ปี ประจำทุกๆ ปี ของวันที่ 13 เมษายนสนใจสินค้า :Racer (racerlighting.com)เครดิต.wongnaipaknamubonclub.com...
จะเข้าฤดูฝนแล้วเรเซอร์นำวิธีการป้องกันอันตรายจากการใช้ไฟฟ้าในหน้าฝนมาฝากกันค่ะ5 วิธีใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้ปลอดภัยในหน้าฝน1. ถอดปลั๊กไฟหลังใช้งานทุกครั้ง2. หมั่นตรวจสอบ ซ่อมแซม เครื่องใช้ไฟฟ้า3. ไม่สัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้า ขณะตัวเปียก4. ชีวิตปลอดภัยเมื่อใช้สายดิน5. ติดตั้งเครื่องตัดกระแสไฟอัตโนมัติป้องกันไฟดูดไฟรั่ว และไฟฟ้าลัดวงจร#Racerlighting#LightUpTheFuture...
Work from home ยังไง❓ช่วยประหยัดไฟมากขึ้น ?จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19แน่นอนว่าการอยู่บ้านทั้งวันทั้งคืน ทำให้มียอดใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นวันนี้เรามี 5 วิธีประหยัดค่าไฟ ?เมื่อต้อง Work from home มาฝากกันค่ะ1. เลือกมุมทำงานให้มีแสงสว่างอย่างเพียงพอมุมหน้าต่างที่มีแสงธรรมชาติ ?จะช่วยให้เราประหยัดไฟมากขึ้น2.? ตั้ง Sleep Modeเมื่อไม่ได้ใช้งาน Computer เพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่ ?3. เลือกใช้หลอด LED แทนหลอดไฟธรรมดา ?4. เปิดพัดลมช่วยไล่ความร้อนก่อนเปิดแอร์ ❄️ทำให้ตอนเปิดแอร์ไม่ต้องทำงานหนักมากแอร์กระจายได้ทั่วห้อง5. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน ?เพื่อลดการใช้กระแสไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง...
วิธีเปลี่ยนโคมไฟจากหลอดธรรมดาเป็น หลอด LED ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน 1. ปิด = ปิดสวิตช์ไฟ หรือ ปิดเบรคเกอร์ เพื่อความปลอดภัย 2. เปลี่ยน = เปลี่ยนหลอดธรรมดาแล้วใส่ หลอด LED ลงไปแทน ต่อแค่สายไฟบ้านอย่างเดียว ไม่ต้องใช้บัลลาดและสตาทเตอร์ อีกต่อไป 3. เปิด = เปิดสวิตช์ไฟ หรือ เปิดเบรคเกอร์ วิธีง่าย ๆ แค่ 3 ขั้นตอนก็ทำให้คุณมีหลอดไฟ LED ที่สว่างกว่าเดิม และประหยัดไฟมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า...
☀️ ทำไม.. หน้าร้อนทีไร จ่ายค่าไฟแพงทุกที ? วันนี้เรเซอร์พาไปทำความเข้าใจสาเหตุ ว่ามันเกิดจากอะไรได้บ้าง 1.อากาศร้อน เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ต้องทำงานหนักขึ้นสมมุติ เราเปิดแอร์อุณหภูมิ 25 องศาเท่ากันในทุกวัน ในช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิห้องสูงถึง 40-42 องศากว่าแอร์จะปรับไปให้ได้ ถึง 25 องศานั้น จะต้องทำงานหนักมาก เป็นสาเหตุให้เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟในช่วงหน้าร้อน 2.หน้าร้อน ความต้องการใช้ไฟเพิ่มขึ้น เราเปิดแอร์ เปิดพัดลม กันอย่างหนักหน่วงเปิดแอร์นานขึ้น อากาศร้อน แอร์ก็ทำงานหนักขึ้นสถิติการคาดการณ์การใช้ไฟฟ้าของประเทศเราช่วง "เดือนมีนาคม-พฤษภาคม" ของทุกปี เมื่อเทียบกับช่วงต่ำสุดของปีสูงขึ้นกว่า 4,000 เมกะวัตต์หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 15% เลยทีเดียว3."ยิ่งใช้เยอะยิ่งแพง" เพราะค่าไฟฟ้าบ้านเราเป็นแบบ "อัตราก้าวหน้า"ถ้ามีการใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือนจะถูกคิดแบบอัตราก้าวหน้า ดังนี้150 หน่วยแรก (หน่วยที่ 0-150) หน่วยละ 3.2484 บาท151-400 หน่วย คิดหน่วยละ 4.2218 บาท401 เป็นต้นไป คิดหน่วยละ 4.4217 บาท3 สาเหตุหลักๆที่ทำให้เราต้องจ่ายค่าไฟที่แพงขึ้นแนะนำหมั่นล้างทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์ 3 เดือน/ครั้งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและที่สำคัญประหยัดค่าไฟฟ้ามากถึง 5-10%"เลยค่ะ#Racerlighting#LightUpTheFutureที่มา : กฟภ. ,moneybuffalo...
โทนสี และแสงของหลอดไฟแต่ละสีสามารถสร้างความรู้สึก อารมณ์สร้างบรรยากาศให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้Warm Whiteแสงเหลือง เป็นแสงที่ให้ความรู้สึกบรรยากาศอบอุ่น โรแมนติกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับห้องนอนหรือ ห้องนั่งเล่นCool Whiteแสงสีขาวอมฟ้าให้ความรู้สึกสะอาดตาเหมาะสำหรับห้องครัว ห้องน้ำDaylightแสงขาว เป็นแสงที่สว่างที่สุดเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือห้องทำงาน ให้ความรู้สึกสดใส สบายตาช่วยปลุกร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า#Racerlighting#LightUpTheFuture...